กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายผู้ยากไร้กับภรรยาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน
ชายผู้นี้มีชื่อว่า “อาเหลา” ในบ้านของอาเหลามีปู่อาศัยร่วมอยู่ด้วย คุณปู่อายุมากแล้ว
ไม่มีใครทราบว่าอายุของคุณปู่ อายุเท่าไหร่ แม้ตัวคุณปู่เองก็จำไม่ได้เสียด้วย
บุตรหลานที่ดีควรจะดูแลเลี้ยงดูบรรพบุรุษ แต่อาเหลาและภรรยานั้น
ไม่ได้มีแก่ใจที่จะสนใจดูแล จัดหาอาหารการกินให้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ซ้ำยังให้ทำงานหนัก
แม้ว่าคุณปู่จะไร้เรี่ยวแรงแล้วก็ตาม
อยู่มาวันหนึ่ง อาเหลาขุดพบโอ่งเก่าในทุ่งนา
“โอ่งใบนี้น่าจะใช้เก็บน้ำได้” อาเหลาคิดอยู่ในใจ จึงได้แบกโอ่งกลับบ้าน
พอถึงบ้านก็ให้ภรรยา ขัดทำความสะอาดโอ่ง พอดีแปรง
หลุดจากมือหล่นลงไปในโอ่ง ในทันใดนั้นเองโอ่งก็มีแปรงเต็มทั้งโอ่ง
ไม่ว่าจะเอาแปรงออกมามากเท่าใดก็ตาม ในโอ่งก็ยังมีแปรงเต็มเสมอ
“เราน่าจะเอาแปรงไปขายที่ตลาด” อาเหลาบอกกับภรรยา
อาเหลาเอาแปรงไปวางขายในตลาด ในไม่นานก็เก็บเงินได้มากมาย
เมื่อมีเงินทองมากมาย ก็จับจ่ายซื้ออาหารรสเลิศ และเสื้อผ้างดงามต่างๆมากมาย
แต่ทั้งสองก็ไม่เคยนึกถึงคุณปู่เลยแม้แต่น้อยนิด
อยู่มาวันหนึ่ง อาเหลาทำแท่งทองหล่นลงไปในโอ่ง แปรงหายวับไปจากโอ่ง
อาเหลาใจหายวาบเมื่อมองเห็นโอ่งว่างเปล่า แต่ทว่าในนาทีถัดมาโอ่งวิเศษก็มีแท่งทอง
เต็มอัดแน่นอยู่แทน อาเหลาตะโกนเรียกภรรยาเสียงหลง “มาดูอะไรนี่ มาดูนี่ นี่ไง”
เมี่อผู้เป็นภรรยามองเห็นทองอัดแน่นอยู่ในโอ่งวิเศษ เธอสุดแสนที่จะดีใจ
อาเหลาขนทองคำออกจากโอ่งวิเศษได้ไม่รู้จบสิ้น อาเหลาสร้างบ้านหลังใหญ่
ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายประดุจเจ้าผู้ครองนครก็ไม่ปาน
อาเหลาบังคับให้ปู่ตักแท่งทองออกจากโอ่งวิเศษเพื่อให้ทองคำ
ขึ้นมาเต็มโอ่งอยู่เสมอ เมื่อใดที่พ่อเฒ่าพักหายใจ
อาเหลาจะตะคอกดุด่าให้ทำงานต่อไป
ต่อมาวันหนึ่ง คุณปู่พลัดตกลงไปในโอ่งวิเศษ ทองแท่งในโอ่งหายวับไป
อีกไม่กี่อึดใจ คุณปู่ก็ค่อยๆปีนออกมาจากโอ่งวิเศษ ทีละคนๆ
เมื่ออาเหลากับภรรยาเห็นดังนั้น ฝ่ายภรรยาก็กรีดร้องออกมาสุดเสียงว่า
“รีบทำอะไรสักอย่างซิ ก่อนจะมีปู่ออกมาอีก”
อาเหลาจึงรีบหยิบพลั่วหวดใส่โอ่งวิเศษอย่างเต็มแรง โอ่งวิเศษแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แต่ก็สายเกินไปแล้ว อาเหลามีคุณปู่ถึง 6 คน ในตอนนี้  แล้วอาเหลาก็ตะคอกดุด่า
คุณปู่ทุกคนด้วยเสียงอันดัง แต่คุณปู่ทั้งหกหาได้เกรงกลัวอาเหลาไม่
คุณปู่ทั้งหกช่วยกันขับไล่สองสามีภรรยาให้ออกไปอยู่นอกบ้าน
อากาศข้างนอกบ้านหนาวมาก  อีกทั้งยังมีลมพัดกรรโชกอีก  ทำให้หนาวเข้าไปถึงในกระดูก สองสามีภรรยาหนาวสั่น
และเริ่มรู้สึกหวาดกลัว อาเหลาและภรรยาจึงเคาะประตูขอร้องและวิงวอนว่า
“ได้โปรดเถิดคุณปู่ เปิดประตูรับพวกเราด้วย อย่าปล่อยให้เราหนาวตายอยู่ข้างนอกบ้านนี้เลย”
คุณปู่ในบ้านส่งเสียงตอบกลับมาว่า
“มีกี่ครั้งที่ข้าร้องขอความกรุณาจากเจ้า แต่พวกเจ้าไม่เคยรับฟังข้าเลย”
“ได้โปรดเถิดคุณปู่ เราทั้งสองสำนึกผิดแล้วและก็เสียใจในการกระทำนั้นแล้ว ได้โปรดอภัยให้เราสองคนด้วยเถิด”
อาเหลาร้องวิงวอนเสียงกระเส่า
ในท้ายที่สุด คุณปู่ก็เปิดประตูรับทั้งสองเข้าบ้านด้วยความสงสาร
นับจากวันนั้นมา อาเหลากับภรรยากลายเป็นคนใหม่ เอาใจใส่ดูแล
เลี้ยงดูคุณปู่ทั้งหกเป็นอย่างดี