การเวียนศีรษะ หรือเรียกง่ายๆว่าเวียนหัว เป็นอาการที่ผู้ป่วยเป็นภาพรอบตัวเองหมุนไปในทิศทางเดียวกัน (ผู้ป่วยต้องลืมตา) โดยอาการเวียนหัวอาจเป็นการหมุนรอบตัวเองในแนวนอน แนวตั้ง หรือตะแคง บางครั้งผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าของรอบตัวเองหมุนเมื่อหลับตา ผู้ป่วยบางรายอาจใช้คำว่า "เป็นลม" "หน้ามืด" "บ้านหมุน" "ตาลาย".. แล้วเหตุใด! ทำไมจึงเกิดการวิงเวียนศีรษะ (เวียนหัว) หูเป็นอวัยวะสำหรับการฟังและการทรงตัว แบ่งออกเป็น 3 ชั้น
กระเปาะยูตริเคิล (utricle) แซคคูล (saccule) มีเซลล์ที่มีขนอยู่ภายในและมีฝุ่นหินปูน (otoconia) ติดอยู่ด้านบนขนของเซลล์อีกที เป็นส่วนที่รับความรู้สึกเคลื่อนไหวของร่างกาย ในแนวราบและแนวดิ่ง อวัยวะรูปก้นหอย (cochled) เป็นส่วนที่ต่อจากกระเปาะทั้งสอง มีหน้าที่รับเสียง และส่งต่อเสียงผ่านเส้นประสาทเข้าสมอง ปกติการไหลของน้ำในท่อครึ่งวงกลม จะมีความเร็วเท่ากันสองข้างเวลาศีรษะเคลื่อนไหว สมองจะรับรู้ปกติและไม่มีอาการเวียนศีรษะ แต่ถ้ามีการหมุนของน้ำภายในเร็วไม่เท่ากัน ระหว่างข้างขวาและซ้าย หรือมีการอักเสบของเส้นประสาทการทรงตัว (vestibular never) ทำให้สมองรับสัญญานจากหู 2 ข้างไม่เท่ากัน จึงเกิดอาการของการหมุนของสิ่งรอบตัวที่เรียกว่า "เวียนศีรษะ" หรือ "vertigo" อาการอื่นที่เกิดจากการเวียนศีรษะ การเวียนศีรษะบ้านหมุน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการอื่นๆ ตามมาได้ดังนี้
สาเหตุของการเวียนศีรษะ จะกล่าวเฉพาะการเวียนศีรษะ ที่ผู้ป่วยเห็นของรอบตัวหมุนเท่านั้น การเวียนศีรษะแบบนี้พบได้บ่อยมาก "ประมาณว่า แต่ละปี 5% ของประชากร เกิดการเวียนศีรษะ และ 10% ของคนเราเคยมีการเวียนศีรษะสักครั้งในชีวิต คนที่อายุเกิน 50 ปี เคยมีอาการนี้ได้ถึง 40%" |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น